โสมผสมเห็ดหลินจือ (Life Group Herbs)
ราคาปกติ 980 บาท ราคาสมาชิก 760 บาท
โสมผสมเห็ดหลินจือสกัด เป็นสมุนไพร 2ชนิด ที่ทรงคุณค่ามานานกว่า 2,000 ปี โดยนำมารวมกันได้อย่างลงตัวสรรพคุณโบราณของ โสม กับสรรพคุณโบราณของ เห็ดหลินจือ เมื่อนำมารวมกัน ย่อมให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภคอย่างน่าสนใจยิ่ง
ในตำรายาจีนกล่าวถึงสรรพคุณของโสมว่าเป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยากระตุ้น ยาเร่งกำหนัด รักษาอาการ ทางประสาท อ่อนเพลีย ไม่มีแรง อาหารไม่ย่อย หัวใจเต้นผิดปกติ โรคหอบหืด โรคความจำเสื่อม ปวดศีรษะ ชัก และมะเร็ง และเชื่อกันว่าโสม เพิ่มความต้านทานต่อโรคทำให้ฟื้นไข้เร็ว
ส่วน สมุนไพรเห็ดหลินจือ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น ใช้บำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีกำลัง ทำให้ความจำดีขึ้น ทำให้ประสาทสัมผัสต่างๆชัดเจนดีขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
ใครก็ตามเมื่อได้กิน เห็ดหลินจือ จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาโรคตับ ความดันโลหิตสูงขับปัสสาวะ ปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำ ภาวะ มีบุตรยาก การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคภูมิแพ้โรคประสาท ลมบ้าหมู เส้นเลือดอุดตันในสมอง อัมพาต อัมพฤกษ์ แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ โรคเกาต์ ตับแข็ง โรคเอสแอลอี เส้นเลือดหัวใจตีบ ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเป็นพิษ แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ และความเชื่อดังกล่าวยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด เมื่อนำมารวมกันให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภคดังนี้
โสม สารสำคัญ ที่พบในรากเป็นสาร ซาโปนิน (saponin) ซึ่งแบ่งเป็น 3กลุ่ม คือ กลุ่มจินเซนโนไซ (ginsenoside) กลุ่มพาแน๊กโอไซน์ (panaxoside) และกลุ่มไชคูเซตซูซาโปนิน (chikusetsusaponin) แต่สารที่สำคัญที่สุดของโสม คือ สารจินเซนโนไซ (ginsenoside) สารจินเซนโนไซ (ginsenoside) เป็นกลุ่มที่มีคุณประโยชน์สูงสุด
1.เป็นกลุ่มสารปรับสภาพให้ร่างกายสมดุล ประกอบด้วยกลุ่มสาร(GinsenosideRg1,Rb1,Ro)โดยจะส่งเสริมการทำงานซึ่งกันและกันเหมือนหยินและหยางในยา
2.ช่วยขจัดไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย
3.ต่อต้านปฏิกิริยาการก่อมะเร็ง
หลินจือ พบว่า เห็ดหลินจือให้คุณค่าทางโภชนาการที่สูง มีสารออกฤทธิ์ สรรพคุณทางยามาก กว่า 150ชนิด ที่ใช้รักษาโรคต่างๆได้อย่างกว้างขวาง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไขมันในเส้นเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ซึ่งสารที่ให้ประโยชน์ดังกล่าวประกอบด้วย
1.ชนิดกลุ่มสารไตรเทอร์ปินนอยด์ขมBitterTriterpenoids) สารที่มีส่วนสำคัญในการรักษาโรคคือ สารกาโนเดอริ (Ganoderic acid A,B.C1,C2,D-K,R-Z) ใช้รักษาโรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมัน ในเส้นเลือดสูง ปกป้องตับ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในตับและช่วยต่อต้านสารที่มีพิษต่อตับ
2. กลุ่มสารโพลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) สำหรับสารที่มีสรรพคุณทางยา คือ กาโนเดอแรนส์ (Ganoderans A,B,C) และสารเบต้าดีกลูแคน(Beta-D-Glucan) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด บี-เซลล์ (B-cells) และทีเซลล์(T-cells)ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ สารอิมมูโนโกลบูลิน(Immunoglobulin) สารอินเตอร์ลิวคิน(Interleukins) ซึ่งเป็นสารสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันสารดังกล่าว มีสรรพคุณต่อต้านมะเร็ง ช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ต่อต้านสารแพ้ ต่อต้านเชื้อไวรัส เริม งูสวัด และเชื้อ HIV ลดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เคมีบำบัดและรังสีบำบัดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ดังนั้นการนำสมุนไพรที่ทรงคุณค่ามานานกว่า 2,000ปี 2ชนิดมารวมกันเราจะพบว่าผู้บริโภคจะได้สารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพคือสารจินเซนโนไซที่ได้จากโสม ซึ่งเป็นกลุ่มสารปรับสภาพให้ร่างกายสมดุล โดยจะส่งเสริมการทำงานซึ่งกันและกันเหมือนหยิน และ หยางในยา
ในเวลาเดียวกัน เห็ดหลินจือ ก็ให้กลุ่มสารไตรเทอร์ปินนอยด์ขม ( Bitter Triterpenoids ) และกลุ่มสาร โพลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) โดยสารทั้ง 2กลุ่มให้ประโยชน์ใช้รักษาโรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเส้นเลือดสูง ปกป้องตับ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในตับ และช่วยต่อต้านสาร ที่มีพิษต่อตับ ต่อต้านเซลล์มะเร็งส่วนอื่น รวมถึง ช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ต่อต้านสารแพ้ ต่อต้านเชื้อไวรัส เริม งูสวัด และเชื้อ HIV ลดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เคมีบำบัดและรังสีบำบัดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าเป็นความลงตัวของสมุนไพรทั้ง 2ชนิดที่ได้รับการยกย่องและใช้สืบทอดกันมานานจนถึงทุกวันนี้